ถอดรหัส กุลธรเคอร์บี้
โรงงานคอมเพรสเซอร์แห่งแรกของไทย กว่า 40 ปี และอนาคตที่พร้อมเติบโต
คอมเพรสเซอร์
คือ อุปกรณ์สำคัญที่สุดในระบบทำความเย็น
เรียกว่าเป็นหัวใจของเครื่องปรับอากาศและตู้เย็น ยิ่งในประเทศไทยที่เป็นเมืองร้อน
ท่ามกลางอุณหภูมิเกือบ 40 องศาเซลเซียส
คอมเพรสเซอร์
ยิ่งมีความสำคัญมากขึ้นเป็นทวีคูณ
จึงกลายเป็นแนวคิดเรื่องการจัดตั้งโรงงานคอมเพรสเซอร์
ที่ถือเป็นอุตสาหกรรมแรกๆ
ที่เกิดขึ้นเพื่อรองรับความต้องการใช้งานทั้งในประเทศและส่งออกต่างประเทศ และบริษัท
กุลธรเคอร์บี้ จำกัด (มหาชน) ได้รับเลือกให้เป็นโรงงานคอมเพรสเซอร์แห่งแรกของไทย
โอกาสนี้ brand inside พามาคุยกับ สุเมธ และ สุรพร สิมะกุลธร สองผู้ริเริ่มและก่อตั้ง
กุลธรเคอร์บี้
ผู้ผลิตคอมเพรสเซอร์
อุปกรณ์ทำความเย็นในตู้เย็นและเครื่องปรับอากาศที่พาธุรกิจเดินทางมากว่า 40
ปี
จากช่างเทคนิค สู่เซลล์แมน ก่อนจะเป็น
กุลธรเคอร์บี้
สุเมธ สิมะกุลธร ผู้ก่อตั้งและอดีตประธานกรรมการ
เล่าว่า ย้อนกลับไปก่อนที่จะมีโรงงานคอมเพรสเซอร์ในไทย
ทุกอย่างต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ส่วนตัวเริ่มทำงานเป็นช่างซ่อมช่างเทคนิค
และขยับขยายมาเป็นพนักงานขาย ทำให้กลายเป็นเซลล์ที่มีความรู้เรื่องช่างเป็นอย่างดี
ระหว่างที่นำเข้าอุปกรณ์ทำความเย็นมาจำหน่าย คือ ตู้แช่เย็นตามร้านขายของชำ
จุดเด่นในตอนนั้นคือ ไม่ได้จำหน่ายเพียงอย่างเดียว
แต่สามารถให้คำแนะนำร้านค้าในการติดตั้ง ซ่อมบำรุง ได้เป็นอย่างดี
ลูกค้าจึงถูกใจและใช้บริการอย่างเหนียวแน่นมาโดยตลอด
จนกระทั่งรัฐบาลมีนโยบายตั้งโรงงานคอมเพรสเซอร์ขึ้นในไทย
สุเมธ เล่าว่า กุลธรเคอร์บี้ได้รับเลือกจากรัฐบาล
ในฐานะบริษัทคนกลางในการผลิตคอมเพรสเซอร์ โดยส่วนตัวถือหุ้น 20% ร่วมกับบริษัท KIRBY Australia ผู้ผลิตคอมเพรสเซอร์จากออสเตรเลีย ในฐานะพันธมิตรถือหุ้นอีก 20% ส่วนอีก 60% เป็นโรงงานผู้ผลิตตู้เย็นและเครื่องปรับอากาศ
ร่วมกับบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยเข้ามาถือหุ้น
เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการผูกขาดตลาดคอมเพรสเซอร์ขึ้น และนั่นคือการเริ่มต้นของ
กุลธรเคอร์บี้ อย่างเป็นทางการ
เรียกได้ว่าจากความสามารถในการผลิตและเทคโนโลยีที่นำสมัยในเวลานั้น
ทำให้ยอดการส่งออกคอมเพรสเซอร์จากไทยติดอันดับท็อปของโลก
เป็นรองเพียงแค่สหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่นเรื่อยมาถึงปัจจุบันที่เป็นรองจีนเท่านั้น
สุรพร สิมะกุลธร อีกหนึ่งผู้ก่อตั้ง
รวมถึงเป็นอดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ และอดีตประธานกรรมการ ของกุลธรเคอร์บี้ บอกว่า
จุดเด่นอีกประการที่ชัดเจนของกุลธรเคอร์บี้
คือการเป็นผู้ผลิตคอมเพรสเซอร์ประเภทลูกสูบ ซึ่งมีความแข็งแรง ทนทาน
รองรับงานหนักได้เป็นอย่างดี ซึ่งทั้งหมดเริ่มต้นมาจากการมีโรงงานที่ได้มาตรฐานสากล
จากการก่อสร้างโรงงานแห่งแรกตั้งแต่ปี
2523 และเสร็จในปี 2524 บนพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง
ก่อนจะขยายพื้นที่โรงงานให้ใหญ่ขึ้นเพื่อรองรับการผลิตที่หลากหลายและปริมาณที่เพิ่มขึ้น
จนถึงปัจจุบัน
ทำให้หลายแบรนด์เครื่องปรับอากาศและตู้เย็นทั่วโลกเชื่อมั่นในกุลธรเคอร์บี้
“ถ้าพูดถึงคอมเพรสเซอร์แบบลูกสูบ
กล้าพูดได้เต็มปากว่า กุลธรเคอร์บี้ คือ อันดับ 1 ในยุทธจักรนี้
เรามีครบวงจรที่สุด”
อีกหนึ่งวิกฤตที่ กุลธรเคอร์บี้
ก้าวผ่านมาได้ คือ วิกฤตต้มยำกุ้งปี 2540 ซึ่งทุกอุตสาหกรรมได้รับผลกระทบทั้งสิ้น
ในเวลานั้น สุธี
สิมะกุลธร ประธานกรรมการ
และ รักษาการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายการเงิน
ถือว่ามีบทบาทสำคัญที่ช่วยให้กุลธรเคอร์บี้ผ่านพ้นวิกฤตมาได้ โดยได้เข้ามาช่วย
สุรพร วางแผนด้านการเงินและปรับโครงสร้างหนี้
เป็นการเข้ามาเติมเต็มให้กับบริษัทซึ่งขาดความเชี่ยวชาญในด้านนี้
นอกจากนี้ สุธี
ยังมีส่วนสำคัญในการเข้าซื้อสายการผลิตของ Bristol มาจากสหรัฐอเมริกา
ทำให้บริษัทสามารถรับมือการแข่งขันที่เพิ่มขึ้น การมี Bristol เข้ามาเติมเต็มขนาดที่ใหญ่ขึ้นของคอมเพรสเซอร์
ทำให้บริษัทเป็นหนึ่งในโรงงานผลิตคอมเพรสเซอร์สำหรับเครื่องปรับอากาศและตู้เย็นที่มีขนาดใหญ่ที่สุด
ทำให้ผลิตภัณฑ์ของกุลธรเคอร์บี้ครอบคลุมทุกแอปพลิเคชั่นการใช้งาน
ดังนั้น ปลายปี 2561 จึงได้เข้าซื้อสายการผลิตและเครื่องจักรของ Bristol ซึ่งเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงมากในตลาดฝั่งอเมริกา,
ตะวันออกกลาง และยุโรป มาผลิตในประเทศไทย ระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา Bristol USA ได้ปิดการผลิตลง
เป็นโอกาสในการสร้างแบรนด์ Kulthorn Bristol ไปทดแทนตลาดเดิมที่ลูกค้าใช้อยู่แล้ว
และเปิดตลาดใหม่ๆ
ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้บริษัทก้าวสู่ระดับโลกได้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม จากนโยบาย Free Trade Agreement ของรัฐบาลระหว่างไทยกับจีน
ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ นั่นคือ ภาษีนำเข้าคอมเพรสเซอร์ลดลงจาก 30%
เหลือ 0% ภาษีนำเข้าเครื่องปรับอากาศและตู้เย็นจาก
60% เหลือ 5% ทำให้การนำเข้าจากจีนคุ้มกว่าการผลิตในประเทศ
ดังนั้นผู้จำหน่ายตู้เย็นและเครื่องปรับอากาศในไทยจึงลดและเลิกผลิต
เปลี่ยนเป็นนำเข้าแทนและทำให้ช่วงนั้นกุลธรเคอร์บี้ประสบปัญหาเช่นกัน
แต่จากการซื้อสายการผลิตจาก Bristol รวมถึงแต่ความสามารถด้วยการปรับตัว
มองหาช่องทางและโอกาสอยู่เสมอ ทำให้กุลธรเคอร์บี้ ปรับทิศทางมาเจาะตลาดเฉพาะกลุ่ม
เน้นคอมเพรสเซอร์แบบลูกสูบ และทำตลาดต่างประเทศเป็นหลัก
ปัจจุบันกุลธรเคอร์บี้อยู่ภายใต้การนำทัพของ ฐิติศักดิ์ สิมะกุลธร ในฐานะกรรมการผู้จัดการใหญ่
ซึ่งถือเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 2 ระบุว่า รุ่นคุณลุงและคุณพ่อ
(สุเมธและสุรพร) ได้เริ่มต้นและสร้างกุลธรเคอร์บี้มาอย่างแข็งแกร่ง
ดังนั้นความท้าทายคือ การสานต่อธุรกิจ ขยายตลาด
และต่อยอดไปสู่ยุคใหม่ของกุลธรเคอร์บี้
“การแข่งขันทั่วโลกดุเดือดมาก การวางกลยุทธ์คือสิ่งสำคัญ แน่นอนว่ากุลธรเคอร์บี้มีจุดเด่นที่คอมเพรสเซอร์ลูกสูบ
แต่ต้องมีการพัฒนาเทคโนโลยี ปรับปรุงระบบเครื่องจักรให้ทันสมัย
และเลือกทำตลาดในผลิตภัณฑ์ที่มีโอกาส”
กว่า 40 ปีของการเป็นผู้ผลิตคอมเพรสเซอร์เจ้าแรกในไทย ผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านอุปสรรคและวิกฤตต่างๆ และยังสามารถคงความแข็งแกร่งไว้ได้ ทำให้กุลธรเคอร์บี้ เป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมขงไทยที่ไม่ได้ธรรมดา จากนี้ต้องมารอดูกันว่ากุลธรเคอร์บี้ยุคใหม่จะมีทิศทางอย่างไรต่อไปทั้งในตลาดไทยและตลาดโลก
ขอขอบคุณข่าวจาก : brand inside
Our website use cookies to distinguish users from other users, which helps us to provide you with a good experience on the website. And help us improve the website as well. The purpose of this policy is to provide you, as a service user and visiting the KULTHORN GROUP website, to obtain clear and accessible information about the cookies used by KULTHORN GROUP and the role they play in helping us provide your experience. the best job for you and the choices you have regarding your cookie settings. Cookie Policy